การพระศาสนา

เมื่อวันที่นัดคุยกันเรื่องทำ #พระลากเมืองนครที่วัดจัน วันก่อน

นายสองคน Surachet Keawsakun กับ ยศไกร กาญชนะชัย บอกว่า

อยากให้เข้าไปดูอีกพระลากพระลาวของอีกวัดจันลานสกา

คราวล้นเกล้า ร.๖ เสด็จน้ำตกกะโรม แล้วชาวลานสกาพาไปร่วมรับเสด็จ

มีชาวพนักงานตามเสด็จชมว่างามมาก

แล้วยุให้ชาวคณะทูลเกล้าถวาย

ด้วยพระลากพระลาวทั้ง ๒ องค์นั้น เป็นพระประจำถิ่น

แถมพระลากยังเป็นสัญญลักษณ์สำคัญของชุมชน

ถึงกับมีเป็นประเพณีลากพระวัดจันไปเจอกับ #พระวัดพัทธเสมา เสี่ยงทาย

จนออกมาเป็นสารพัดเรื่องราว

กระทั่งพระลาก ๒ วัด เกิดเป็นองค์ผัวองค์เมียกันโน่น !!!

ชาววันจันลานสกา ก็เลยถวายพระลาวแด่ ร.๖

ทรงให้ประดิษฐานรักษาไว้ในพระธาตุนคร ว่ากันว่า #วิหารโพธิ์ลังกา

เพราะคราว ร.๖ เสด็จนครครั้งนั้น

มีการอัญเชิญพระเก่าหลายองค์มารวมรักษาไว้ ไม่งั้นน่าจะหายสูญไปกว่านี้

" ... ผมว่า พระลาวอาจจะเป็นองค์ในตู้ที่พระวิหารเขียน ... "

นายคนหนึ่งเสนอ เพราะเพิ่งเจอมา และหารือกับท่านพระครูเหม โสพิทร์ แซ่ภู่ ว่างั้น

" ... อืยยย ไม่ใช่ ผมเข้าไปตามดูตั้งแต่เรียนอยู่หอไตร

ร่างสเก็ตช์ไว้แล้วด้วย มีองค์เดียวเท่านั้นแหละที่ใช่แน่

อยู่ในโพธิ์ลังกา ชาววัดจันตามมากันมาก อยากขอคืน

บอกด้วยว่า เขาเทปูนทับท่านไว้แล้ว น่าเอากลับยาก ... "

พวกเราจึงตามไปขอดู

แล้วเทียบกับพระลากที่ยังอยู่วัดจันลานสกา

เหมือนกันเป๊ะเป็นคู่แฝดเลยครับ แต่ว่าผมไม่มีรูปครับ

ทั้งหมดนี้ ผมถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ของน้อง ๆ เยาวชนคนนคร

ช่างรู้ลึกและเป็นเรื่องเป็นราวจริง ๆ จัง ... จนอดนิยมนับถือมิได้

๖ กค.๖๔ ๐๗๒๒ น.

บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร