การพระศาสนา

ตั้งแต่แรกเริ่มสร้าง หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ - สวนโมกข์กรุงเทพ

ผมก็ปรารภกับแม่น้าพาและพี่น้องว่า จะร่วมสมทบทำบุญสร้างด้วยไหม

ตอนนั้นผมขอพี่ Banyong Pongpanich ว่าในฐานะที่ชวนมาสร้างทำที่บางกอก

น่าจะต้องใช้ทุนไม่น้อย พี่ต้องช่วยด้วย

โดยตอนเริ่มแรก หลายฝ่ายประเดิมมากองละ ๑๐ ล้านบาท !!!

พี่ผมคนนี้ก็เลยประเดิมให้ด้วย ในนามของสองกอง

คือ #ขุนบวรรัตนารักษ์นางช้อยและยุพา_บวรรัตนารักษ์ คือคุณตาคุณยายและน้าพา

กับ #สุธีรัตนามูลนิธิ หมายถึงพ่อกับแม่

นี้ก็แนวเดียวกันกับตอนสร้างทำ #มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ผมก็ชวนพี่น้องตั้ง #สุธีรัตนามูลนิธิ ขึ้น

แล้วช่วยสมทบทำสารพัดให้มหาวิทยาลัยและชาวชุมชน

ในกรณีที่ทางมหาวิทยาลัยบอกว่าจ่ายไม่ได้

ออกมาเป็น #อาคารโรงเรียนชุมชนใหม่

กับ #สุธีรัตนาคารในธรรมสถานและที่พักสงฆ์ ฯลฯ

โดยหลังเปิดวลัยลักษณ์สำเร็จและผมวางมือเมื่อครบ ๑๐ ปี มี นศ.รุ่นแรกจบแล้ว

ก็ได้ #สุธีรัตนามูลนิธิ นี้ทำอีกหลายการกุศลสำคัญ

ตั้งแต่เรื่อง #เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดนครศรีธรรมราช

โครงการ #ดับบ้านดับเมือง_เรียนรู้อยู่ดีที่ปากใต้

ขยายไปเป็น #SaveAndamanNetwork_SAN หลังสึนามิ

และที่สำคัญอันต่อเนื่องมาเป็นสวนโมกข์กรุงเทพ

ก็คือการก่อตั้ง #กลุ่มศึกษาที่สวนโมกข์ในสุธีรัตนามูลนิธิ นี้

ที่เป็นหน่วยศึกษาพัฒนาและขับเคลื่อนจนเกิดเป็นสวนโมกข์กรุงเทพในวันนี้

มาถึงตอนนี้ พี่คนนี้กับพี่สะใภ้ เติมมาอีก ๕ กอง

ขณะที่น้าพาก็สั่งไว้ในพินัยกรรม ตกลงกันว่าเติมใส่อีก ๒

วานนี้ จึงส่ง ๓ คนนี้ มีพี่ Banchuab Pongpanich

ไปทำหน้าที่รับวัตถุที่ระลึกนี้มาไว้ครับ

แบบว่าบ้านนี้ ๕ พี่น้อง รวมพี่ Banpot Pongpanich Ting Pongpanich

และสามพี่สะใภ้กับผองเพื่อน ทำมันกันทุกอย่างแหละครับผม

โดยมีผมนี้แหละ ที่พ่อแม่และน้าพาตั้งชื่อบัญชาให้ไว้เหมาะมากครับ

ขอกุศลผลบุญทั้งหมดทั้งสิ้น พึงแผ่ถึงบุรพชนของทั้งสองวงศ์สกุล

คือ #บวรรัตนารักษ์ และ #พงษ์พานิช ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวร

และผองเพื่อนสรรพสิ่งที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นโดยถ้วนทั่วเทอญ

๒๑ พฤษภา ๖๖ ๑๐๑๐ น.

บ้านท่าวัง สะพานควาย กทม.